เทคนิค การ ทำงาน ให้ ประสบ ผล สำเร็จ – 5 เทคนิค วิธีทำงานให้ประสบความสำเร็จ

• 5 เทคนิค วิธีทำงานให้ประสบความสำเร็จ
• 10 เทคนิคการทำงานที่คนประสบความสำเร็จไม่เคยบอกคุณ!
• เทคนิคการทำงานให้ประสบความสำเร็จมากกว่า และเร็วกว่าผู้อื่น - UP2BE

อย่าเชื่อความคิดของคนอื่นมากเกินไป อย่าปล่อยให้ความไม่รู้ของคนอื่นมาทำให้คุณเข้าใจผิด ไม่ว่าเขาคนนั้นจะเป็นหัวหน้า คนมีชื่อเสียง หรือเพื่อนร่วมงาน เพราะในบางเรื่องพวกเขาอาจรู้น้อยกว่าที่คุณคิด หากคุณสงสัยเรื่องใด ลองหาคำตอบด้วยตัวเอง หรือสอบถามจากผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนั้นๆ จะดีกว่า 5. ทำงานให้หนักกว่าคนอื่น ไม่เคยมีใครที่นั่งอยู่เฉยๆ แล้วประสบความสำเร็จ ดูจากได้คนที่ประสบความสำเร็จทั่วโลก เส้นทางการทำงานของพวกเขาไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ถ้าคุณอยากประสบความสำเร็จ ต้องทำงานให้หนักกว่าคนอื่น ซึ่งหนักในที่นี้ไม่ได้หมายถึงการทำงานหามรุ่งหามค่ำ แต่หมายถึงการหมั่นเรียนรู้และต้องลงมือทำจริง โดยใช้ความพยายามและความตั้งใจ อย่างที่ทราบกันว่าความสำเร็จไม่ได้มาง่ายๆ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายคุณต้องกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในสายงานของตัวเอง ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องใช้เวลาสั่งสมประสบการณ์ Source

5 เทคนิค วิธีทำงานให้ประสบความสำเร็จ

งานไม่สำคัญ และ ไม่รีบ อันนี้เอาไว้ทีหลังได้เลย. ทำตามได้เลยนะคะ งานจะได้เป็นระเบียบมากขึ้น 3. คิดออกให้รีบจด บางความคิดเรานั่งคิดตั้งนา นมักคิดไม่ออกนะคะ แต่จะมีบางเวลาที่อยู่ๆ ก็คิดได้ จังหวะนั้นแหละค่ะ เมื่อเราคิดได้ ให้รีบจดไว้ทันที. และความคิดแบบนี้มักจะเจ๋งเ สมอ ไอเดียใหม่ สร้างสรรค์ 4. ทำงานอย่างมีวินัยละขยันมั่ นเพียร ถ้าอยากประสบความสำเร็จ สิ่งที่ต้องทำมากที่สุดเลยน ะ คือความมีวินัย ทำตามสิ่งที่เราตั้งไว้ ทำตามแพลนที่เราวางไว้ รับรองว่า #ความสำเร็จนั้นอยู่ไม่ไกลแ น่นอน 5. พัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ถึงเราจะมีแพลนและเป้าหมายท ี่ชัดเจน แต่การพัฒนาตัวเองก็ยังคงเป ็นเรื่องที่สำคัญมาก. ต่อให้เราประสบความสำเร็จแล ้ว ก็จงอย่าหยุดพัฒนาตัวเอง เพราะโลกนี้หมุนไปเรื่อยๆ สิ่งใหม่ก็เข้ามาเรื่อยๆ เช่นกัน การหยุด เท่ากับเป็นการถอยหลัง แนะนำให้หาความรู้เพิ่มเรื่อยๆ เช่น อ่านหนังสือ ลงเรียนเพิ่ม ขอให้สนุกกับการทำงานนะคะ^^

มีความอดทนและขยันในการทำงาน การที่คุณมีความอดทนและขยันในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นความอดทนต่อความเครียดความเหนื่อยในการทำงาน อดทนต่อปัญหาและสถานการณ์เลวร้ายต่างๆ ที่เกิดขึ้น อดทนต่อคำพูดที่ไม่ดีบั่นทอนจิตใจของเพื่อนร่วมงานหรือเจ้านาย เมื่อคุณรู้จักปรับตัว และคิดหาทางแก้ไขปัญหาและนำมันไปเป็นพลังในการทำงานให้มีประสิทธิภาพ ก็จะนำคุณไปสู่ความสำเร็จในที่สุดค่ะ 4. ไม่ยอมแพ้แม้เจอปัญหา ถ้าคุณเป็นคนที่อดทน ไม่ยอมแพ้ต่อปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น พร้อมที่จะต่อสู้และแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เข้ามาให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี คุณก็อยู่ใกล้ความสำเร็จเข้าไปทุกทีแล้วค่ะ เพราะคนที่ประสบความสำเร็จส่วนมาก ไม่ได้มาจากความเก่งหรือความฉลาดเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่มันยังมาจากความไม่ยอมแพ้ต่ออะไรง่ายๆ อีกด้วยค่ะ 5. สร้างผลงาน คุณต้องพยายามสร้างผลงานเพื่อพิสูจน์ความสามารถของตนเอง ให้หัวหน้า เพื่อนร่วมงาน และคนอื่นเห็นอย่างสม่ำเสมอ เมื่อคุณพิสูจน์ตัวเองได้ในระดับหนึ่งแล้ว โอกาสดีๆ ก็จะเริ่มเข้ามาหาคุณเองค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเงินเดือนที่สูงขึ้น โบนัสที่เพิ่มขึ้น การเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง และอีกหลายๆ อย่าง ถ้าคุณมีผลงานที่พิสูจน์ได้ว่าคุณสมควรจะได้รับ 6.

30 พ. ย. 2560 เวลา 5:15 น. ใกล้สิ้นปีแล้ว เชื่อว่าชีวิตมนุษย์เงินเดือน คงตั้งหน้าตั้งตาทำผลงาน เพื่อหวังเงินโบนัสก้อนโตกันอยู่ใช่ไหม? สำหรับใครที่ทุ่มเททำงานมาตลอดทั้งปี มีผลงานเป็นที่เข้าตาก็ขอแสดงความยินดีด้วย นั่นหมายถึงคุณได้ไปต่อ! แต่สำหรับใครที่ทุ่มเททำงานแต่ไม่มีผลงาน ทำโอทีทุกวันแต่งานไม่เสร็จสักที หรือถูกหัวหน้าตักเตือนอยู่บ่อย ๆ ก็อย่าเพิ่งหมดหวัง เพราะวันนี้มีเคล็ดลับที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของคุณด้วยเทคนิคง่ายๆ จากหนังสือ "เปลี่ยนวิธีคิดแค่ 5 วิ งานก็สำเร็จไปแล้ว 90%" มาบอก เคล็ดลับต่าง ๆ ในหนังสือเล่มนี้ช่วยพลิกชีวิตนักธุรกิจชาวญี่ปุ่นมาแล้วกว่า 6, 000 คน ด้วยวิธีการทำงานที่คนประสบความสำเร็จเขาทำกัน แต่ไม่เคยบอกคุณ! มาดูกันดีกว่า 10 เทคนิคการทำงานที่ช่วยเปลี่ยน "พนักงานธรรมดา" ให้เป็น "พนักงานที่เปล่งประกาย" มีอะไรบ้าง 1. เมื่อได้รับมอบหมายงาน ลองหยุดคิดก่อนว่า "ควรทำอะไร" เริ่มจากจัดลำดับความสำคัญของงานโดยคิดว่าอะไรที่ทำให้มีผลงานเพิ่มขึ้น เพราะไม่ว่าคุณจะทุ่มเททำงานแค่ไหน ทุกคนก็มีเวลา 24 ชั่วโมงเท่ากัน ไม่มีทางที่เวลาจะเพิ่มขึ้น ดังนั้น คุณจึงไม่จำเป็นต้องทุ่มเทกับงานทุกชิ้น 2.

อย่าหยุดพัฒนาตนเอง ถ้าคุณอยากจะประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานให้เร็วกว่าคนอื่น คุณจะต้องมีการพัฒนาตนเองอยู่เสมอ อย่าหยุดที่จะพัฒนาตนเอง การที่คุณพร้อมเรียนรู้และค้นคว้าหาเวลาเรียนรู้เพิ่มเติมอยู่ตลอดเวลา จะทำให้คุณพัฒนาการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นค่ะ 7. สร้างภาวะความเป็นผู้นำในตนเอง คุณก็ต้องกล้าคิด กล้าทำ ต้องมั่นใจว่าสิ่งที่คุณทำนั้นถูกต้อง และกล้าที่จะทำ ที่สำคัญคุณต้องคิดว่าตัวเองทำได้ แต่การมั่นใจนั้นต้องเป็นสิ่งที่ดีต่อตัวคุณเองและคนอื่น อย่ามัวแต่รอรับคำสั่งเพียงอย่างเดียว ดังนั้น คุณต้องมีความคิดแบบเจ้าของธุรกิจ แบบคนเป็นหัวหน้า เพื่อนำไปสู่หนทางแห่งความสำเร็จค่ะ 8. สร้างความสัมพันธ์กับคนรอบด้าน การมีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบด้าน จะเป็นสิ่งที่ช่วยให้ธุรกิจหรืองานของคุณเดินหน้าต่อไปได้ หรือประสบความสำเร็จได้นั่นเองค่ะ คุณจำเป็นต้องรู้จักคนให้มาก เพื่อให้สามารถเชื่อมโยงถึงคนประเภทที่คุณต้องการได้ ดังนั้น คุณจึงต้องเป็นคนที่มีความสามารถในการติดต่อสื่อสารที่ดีด้วย เพราะการที่คุณมีทีมงานที่ดี ทำงานร่วมกันได้อย่างดี แต่ละคนในทีมงานรู้หน้าที่ และความรับผิดชอบของตนเอง และมีการสื่อสารกันอยู่ตลอดเวลา จะทำให้ผลงานที่ได้มีประสิทธิภาพ และสามารถทำให้คุณประสบความสำเร็จได้รวดเร็วยิ่งขึ้นค่ะ

10 เทคนิคการทำงานที่คนประสบความสำเร็จไม่เคยบอกคุณ!

เทคนิคการทำงานอย่างไร? ให้ประสบความสำเร็จเร็วกว่าคนอื่น Posted on 05 Apr 2019 1367 ใครๆ ก็อยากประสบความสำเร็จมากกว่า และเร็วกว่าคนอื่น ในโลกของการทำงาน ทุกคนต่างแข่งขันกัน เพื่อต้องการที่จะเติบโต ก้าวหน้าในหน้าที่การงาน และประสบความสำเร็จในอนาคต ซึ่งการที่จะประสบความสำเร็จได้นั้น ก็ต้องสามารถทำงานได้อย่างมีคุณภาพ และทำงานได้อย่างรวดเร็วกว่าคนอื่น นอกจากนี้ การจะทำงานให้ประสบความสำเร็จให้เร็วกว่าคนอื่นนั้นยังต้องอาศัยความขยันเป็นอย่างมาก เพราะอุปสรรคที่สำคัญที่สุด ที่จะทำให้คุณประสบความสำเร็จช้ากว่าคนอื่น ก็คือ ความท้อแท้ เมื่อเกิดความท้อแท้ คุณก็จะหมดกำลังใจในการทำงาน ผลงานที่ออกมาก็จะไม่มีประสิทธิภาพนั่นเองค่ะ 1. ตั้งเป้าหมายในการทำงานให้ชัดเจน แน่นอนว่าความสำเร็จของคุณ คุณก็ควรเป็นผู้กำหนดเอง ดังนั้นเส้นทางที่จะนำไปสู่ความสำเร็จนั้น คุณจะต้องตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน เพื่อที่จะสามารถบรรลุเป้าหมาย และนำไปสู่ความสำเร็จของคุณได้ เพราะว่าเป้าหมายเป็นสิ่งสำคัญ หากคุณมีเป้าหมายที่มั่นคง มันก็ไม่ใช่เรื่องยากที่คุณจะประสบความสำเร็จเร็วกว่าคนอื่นค่ะ 2. จัดลำดับความสำคัญของงาน คุณควรที่จะจัดลำดับความสำคัญของงาน โดยพิจารณาจากความสำคัญมากไปน้อย และความเร่งด่วน อย่าทำงานตามใจตนเอง เพราะบางครั้งคุณต้องทำงานที่เกี่ยวข้องกับผู้อื่น ถ้าคุณทำงานล่าช้า หรือผิดพลาด ก็จะส่งผลกระทบต่อผู้อื่น และอาจส่งผลเสียต่อบริษัทอีกด้วยค่ะ 3.

อย่าทำงานแบบผ่อนส่ง ควรทำงานให้เสร็จในคราวเดียว คำว่า "เอาไว้ก่อน" เป็นคำพูดสำหรับคนที่มีเวลาเหลือเฟือ งานที่ลากยาวไปเรื่อย ๆ มีแต่จะยิ่งสะสมเพิ่มขึ้น จนท้ายที่สุดก็ไม่มีผลงานที่สำเร็จออกมาสักชิ้น 7. ควรตั้งกำหนดเวลาให้ตัวเองว่า "งานที่ทำอยู่ตอนนี้จะต้องเสร็จภายในกี่โมง" และหยุดคิดสัก 5 วินาทีก่อนลงมือทำว่า "ควรเริ่มทำงานไหนก่อน" จะช่วยให้มุ่งไปยังเป้าหมายได้เร็วขึ้น 8. อย่าเสียเวลากับการเปิดอ่านอีเมลทั้งหมดจากบนลงล่าง แต่ให้เลือกเปิดจากเรื่องที่สำคัญก่อน การคำนึงว่า "ควรทำอะไรก่อน" หรือ "มีอย่างอื่นควรทำมากกว่าหรือไม่" สิ่งเหล่านี้เรียกว่าทักษะ "การจัดลำดับความสำคัญ" 9. เมื่อรับคำสั่งจากหัวหน้าแล้ว อย่าเพิ่งรีบลงมือทำทันทีตามความเข้าใจของตน เพราะเป็นไปได้ว่าสิ่งที่คุณคิดกับสิ่งที่หัวหน้าอยากให้ทำนั้นเป็นคนละเรื่องกัน ฉะนั้น ควรถามให้แน่ใจก่อน เช่น "ต้องการให้งานออกมาประมาณนี้ใช่ไหมครับ" เพื่อให้คุณหมดกังวลว่างานที่ทำอยู่จะไม่เสียเปล่า 10.

1. Netflix อาจเผยโฉมแรก The Witcher Season 2 และ Cuphead ฉบับซีรีส์ภายในเดือนมิถุนายนนี้ | GamingDose | LINE TODAY
2. ลํา เนา อยู่ บํา รุ ง
3. 10 เทคนิคการทำงานที่คนประสบความสำเร็จไม่เคยบอกคุณ!
4. 5 เทคนิค วิธีทำงานให้ประสบความสำเร็จ
5. หลังคา กันสาด เม ทั ล ชีท
6. เทคนิคการทำงานให้ประสบความสำเร็จมากกว่า และเร็วกว่าผู้อื่น - UP2BE

เทคนิคการทำงานให้ประสบความสำเร็จมากกว่า และเร็วกว่าผู้อื่น - UP2BE

ใครที่ได้ทำงานในสิ่งที่ชอบหรือรัก ก็ถือเป็นความโชคดีอย่างหนึ่ง แต่มีคนจำนวนมากที่ต้องทำในสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบ หรือไม่ตรงกับความต้องการ ทั้งนี้ ไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าของธุรกิจ ผู้ประกอบการขนาดเล็ก ลูกจ้าง คุณก็ยังต้องการความก้าวหน้า และประสบความสำเร็จในสายงานที่ตัวเองทำ นี่คือ 5 ขั้นตอนง่ายๆ ที่จะเปลี่ยนวิธีการทำงานของคุณ 1. อย่าปล่อยให้การปฏิเสธทำลายเป้าหมายของคุณ ทุกคนย่อมมีความสามารถพิเศษซ่อนอยู่ การเปิดรับสิ่งใหม่ๆ เข้ามาจะช่วยให้คุณได้รู้จักตัวเองมากขึ้น อย่าเพิ่งด่วนปฏิเสธโอกาสนั้นๆ เพราะชีวิตต้องเจอกับความผิดหวังอยู่เป็นระยะ แม้จะล้มเหลวหรือผิดหวัง สุดท้ายคุณก็ได้เรียนรู้จากมัน แต่อย่าปล่อยให้ความล้มเหลวนั้นมารบกวนจิตใจ และเป้าหมายของตัวเอง 2. ไม่อิจฉาผู้อื่น คุณอาจเป็นอีกคนที่ต้องต่อสู้กับสิ่งที่คนอยากให้เป็น มากกว่าการเป็นตัวของตัวเอง อิจฉาคนที่ได้ทำในสิ่งที่ต้องการ อย่าปล่อยให้ความอิจฉามากำหนดอนาคต หรือบั่นทอนแรงบันดาลใจของคุณ วิธีจัดการกับความอิจฉาแบบง่ายๆ ให้ดูตัวที่ผ่านมาคุณพัฒนาไปมากแค่ไหน กุญแจสำคัญคือ เอาตัวเองออกมาจากจุดนั้นให้เร็วที่สุด 3. อยู่ใกล้กับคนที่พร้อมจะสนับสนุน แน่นอนว่าในการทำธุรกิจ คุณไม่สามารถประสบความสำเร็จได้ด้วยการลงมือทำคนเดียว เพราะฉะนั้น รอบๆ ตัวของคุณควรจะมีคนพร้อมจะให้คำแนะนำในทางที่เหมาะสม และมีความจริงใจ หากรอบตัวคุณมีแต่คนที่พร้อมจะฉุดคุณลง จะทำให้คุณห่างไกลความสำเร็จมากยิ่งขึ้น ในท้ายที่สุด คุณต้องพิจารณาให้ดีๆ คนประเภทไหนที่ควรจะสร้างความสัมพันธ์ในระยะยาว และใครที่ควรอยู่ให้ห่าง 4.

มีความเชื่อว่าเราคือคนที่ประสบความสำเร็วมากกว่า และเร็วกว่าคนอื่นได้ โดยพูดกับตัวเองทุกวัน ไม่ต้องคิดอะไรมาก เชื่อไปเลย เชื่อในความสามารถของตน เมื่อเราเชื่อแบบนี้แล้ว พลังในการพัฒนาตนเองจะระเบิดออกมาแล้วเราก็จะค้นหาวิธีการที่จะทำให้ความเชื่อนั้นเป็นจริง 2. มีเป้าหมายในการทำงานที่ชัดเจนโดยเราต้องรู้จักเป้าหมาย หรือดัชนีชี้วัดผลงาน และความคาดหวังของบริษัท หรือองค์กรจากการทำงานของเรา ซึ่งทำได้โดย พูดคุยกับหัวหน้างานของเราโดยตรงเลยว่า ความคาดหวังของเขาต่อเรานั้นมีอะไรบ้าง ทั้งในด้านผลลัพธ์ของงานทั่วไป เช่นคุณภาพงาน ปริมาณงาน และ พฤติกรรมที่เขาต้องการให้เราปฏิบัติ 3. วางแผนการปฏิบัติงาน และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดผมขอแนะนำว่า ทุกวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นวันหยุดของเรา เราควรจะสละเวลามาวางแผนงานว่าในสัปดาห์ที่จะถึงนั้น เรามีกิจกรรมที่จะต้องทำอะไรบ้าง และจะทำวันไหน งานหลัก งานครอบครัว ต้องบริหารเวลาให้ดี โดยเขียนบันทึกตารางเอาไว้ เพื่อใช้เป็นกำหนดการปฏิบัติงานทั้งสัปดาห์ วิธีการนี้ เป็นวิธีที่ง่าย แต่มีประสิทธิภาพสูง ผมแนะนำเลยว่าสมควรทำอย่างยิ่งครับ 4. จัดลำดับงานให้เป็น โดยพิจารณาจากหลักความสำคัญ และเร่งด่วน ขอแนะนำว่าอย่าทำงานตามใจฉัน เพราะเราไม่สามารถทำงานคนเดียวได้ งานของเราต้องเกี่ยวข้องกับคนอื่น ถ้าเราทำงานช้า หรือผิดพลาด ก็จะส่งผลกระทบต่อผู้อื่น และอาจส่งผลเสียต่อภาพรวมของบริษัทได้ 5.

หากต้องการเพิ่มผลงานจงตัดใจเลือก "งานที่ไม่ต้องทำ" เพราะใช่ว่าการทำงานเสร็จทุกชิ้นจะเกิดผลงานเสมอไป จริง ๆ แล้วการทำงานสำคัญเพียง "20%" ตามกฎ 20/80 ก็ช่วยให้มีผลงานเพียงพอต่อความสำเร็จแล้ว ฉะนั้น "การเลิกทำ" จึงกลายเป็นสิ่งสำคัญกว่า "การลงมือทำ" อีกทั้งยังทำให้มีเวลาไปทำสิ่งใหม่ด้วย 3. ไม่มีงานไหนที่ "โอกาสความผิดพลาดเป็นศูนย์" จึงแบ่งความผิดออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ ความผิดที่ยอมรับได้ ซึ่งส่งผลกระทบในระดับต่ำ กับความผิดที่ยอมรับไม่ได้ ซึ่งส่งผลกระทบในระดับสูง ฉะนั้น จงคำนึงถึงระดับผลกระทบที่ได้รับจากความผิดนั้น การหยุดคิดสัก 5 วินาทีก่อนลงมือทำว่าอะไรคือ "ความผิดที่ยอมรับไม่ได้" จะช่วยเลี่ยงปัญหาที่จะเกิดขึ้น 4. การตรวจสอบให้ดีก่อนจะช่วยลดอัตราการเกิดความผิดพลาดได้ เพื่อให้งานราบรื่นจึงจำเป็นต้องตรวจสอบล่วงหน้าทุกขั้นตอน และโยนความคิดที่ว่า "น่าจะเรียบร้อยแล้ว" หรือ "ที่ผ่านมาก็ไม่เห็นเป็นอะไร" ทิ้งไปให้หมด คุณควรคิดอีกแบบว่า "แบบนี้ใช้ได้แล้วจริงหรือ" เพราะส่วนใหญ่ความผิดพลาดมักเกิดจากความประมาทหรือชะล่าใจ 5. งานก็เหมือนกายกรรมหมุนจาน คุณต้องมองให้ออกว่าจานใบไหนหมุนช้าลงและมีโอกาสตกลงมาแตกมากกว่าแล้วเข้าไปหมุนจานใบนั้น หากคุณหมุนจานหลายใบต้องตัดสินใจว่าควรหมุนใบไหนก่อน เช่นเดียวกับการเพิ่มผลงานในเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัด คุณต้องรู้ว่า "ไม่จำเป็นต้องลงแรงกับงานที่ไม่ต้องทำอะไรก็เดินหน้าไปได้สวยอยู่แล้ว" นั่นหมายความว่า "อย่าหมุนจานใบที่หมุนเองได้ แต่จงหมุนจานใบที่ทำท่าจะตก" ต่างหาก 6.