ผูก สูตร Excel ข้าม Sheet

"&D5 สูตรนี้เขียนตรงตามไวยากรณ์ทุกอย่าง แทนที่จะได้ค่าในเซลล์ B3 (จากตัวอย่างคือ 7262) แต่กลับได้ผลลัพธ์เป็น 'D:\RawData\DataByMonth\[2016_Jan]Sheet1'! B3 ซะงั้นอ่ะ! ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น? เพราะการเขียนสูตรในลักษณะนี้ เอ็กเซลจะเข้าใจว่าผลลัพธ์คือตัวหนังสือ (Text) การเชื่อมด้วยเครื่องหมาย & ก็คือการเชื่อมตัวหนังสือเข้าด้วยกันนั่นเอง งั้นไม่ต้องเชื่อมด้วย & ได้ไหม เอ็กเซลจะได้ไม่เข้าใจผิด? ไม่ได้ครับ ถ้าไม่เชื่อมด้วย & เอ็กเซลจะไม่ยอมให้กด Enter ครับ จะขึ้นข้อความเตือน (Error Message) แบบนี้ แล้วจะทำยังไงดี? เรามาถูกทางแล้วครับ เพียงแต่ถ้าพิมพ์แค่นี้ เอ็กเซลจะมองว่าผลลัพธ์คือตัวหนังสือ (Text) ถ้าต้องกา รเปลี่ยนตัวหนังสือให้เป็นการอ้างอิงเซลล์ ต้องครอบด้วยฟังก์ชัน INDIRECT หรือจาก "'"&A5&"["&B5&"]"&C5&"'! "&D5 เป็น = INDIRECT( "'"&A5&"["&B5&"]"&C5&"'! "&D5) จะได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ เยส!! ถ้าต้องการเปลี่ยนเป็นดึงข้อมูลจากไฟล์อื่น ชีตอื่น หรือเซลล์อื่น ก็ใช้สูตรเดิมได้เลย เปลี่ยนแค่ตัวแปรก็พอ เยส เยส!! ถ้าต้องการเปลี่ยนโฟลเดอร์ ก็พิมพ์ที่อยู่โฟลเดอร์ที่ต้องการ (ในคอลัมน์ A) ได้เลย เยส เยส เยส!!

การใช้ Vlookup ข้าม WorkSheet - Welcome to Kesinee Blog

(Exclamation Mark) หรือเขียนเต็มๆก็คือ! $B$2 ถ้าแทนคำว่า "ที่อยู่ไฟล์", "ชื่อไฟล์", "ชื่อชีต" และ "ชื่อเซลล์" ลงไปในสูตร จะได้ผลลัพธ์เป็น = ' ที่อยู่ไฟล์ \[ ชื่อไฟล์] ชื่อชีต '! ชื่อเซลล์ นี่คือไวยากรณ์การอ้างอิงเซลล์แบบเต็ม (ต้องใช้เครื่องหมาย ' \ []! ให้ถูกต้อง) ถึงตรงนี้เราน่าจะเข้าใจการอ้างอิงเซลล์แล้ว ดังนั้นถ้าใช้ไวยากรณ์การอ้างอิงเซลล์แบบนี้ แต่เปลี่ยนตำแหน่งเซลล์จาก B2 เป็น B3 ก็น่าจะง่ายนิดเดียว เพื่อให้ข้อมูลปรับเปลี่ยนได้แบบไดนามิค ก็น่าจะพิมพ์ ที่อยู่ไฟล์ ชื่อไฟล์ ชื่อชีต ชื่อเซลล์ ไว้ในเซลล์ใดๆ แล้วเขียนสูตรลิงค์ค่าได้ เช่น ระบุ ที่อยู่ไฟล์ ในเซลล์ A5 ระบุ ชื่อไฟล์ ในเซลล์ B5 ระบุ ชื่อชีต ในเซลล์ C5 ระบุ ชื่อเซลล์ ในเซลล์ D5 หรือระบุแล้วได้หน้าตาแบบนี้ จากสูตร =' ที่อยู่ไฟล์ \[ ชื่อไฟล์] ชื่อชีต '! ชื่อเซลล์ แทนค่า A5, B5, C5, D5 ลงไป (เพื่อความสะดวก พิมพ์เครื่องหมาย \ ต่อท้าย ที่อยู่ไฟล์ เลย หรือระบุ ที่อยู่ไฟล์ เป็น D:\RawData\DataByMonth \) เชื่อมกับเครื่องหมาย ' []! ด้วยเครื่องหมาย & (Ampersand) เนื่องจากเครื่องหมาย ' []! ไม่สามารถพิมพ์ตรงๆในสูตรได้ เวลาพิมพ์ต้องครอบด้วยเครื่องหมาย " " (Quotation Marks, เครื่องหมายคำพูด) หรือเขียนสูตรได้เป็น =" ' "&A5&" [ "&B5&"] "&C5&" '!

ให้เปลี่ยน "" เป็นชื่อ sheet ต้นทาง 7 คลิกเซลล์ใน sheet ต้นทาง. นี่คือเซลล์ต้นทาง จะเป็นเซลล์ว่าง หรือเซลล์ที่มีข้อมูลก็ได้ พอพ่วง sheet แล้ว เซลล์ปลายทางจะอัพเดทอัตโนมัติ ตามข้อมูลในเซลล์ต้นทาง เช่น ถ้าจะดึงข้อมูลจากเซลล์ D12 ใน Sheet1 สูตรที่ได้จะเป็น =Sheet1! D12 8 คลิก ↵ Enter ที่คีย์บอร์ด. เพื่อปิดสูตรให้สมบูรณ์ แล้วกลับไปที่ sheet ปลายทาง เท่านี้ก็พ่วงเซลล์ปลายทางกับเซลล์ต้นทางเรียบร้อย ต่อไปจะดึงข้อมูลมาใช้ได้ทันที ทุกครั้งที่แก้ไขข้อมูลในเซลล์ต้นทาง เซลล์ปลายทางจะอัพเดทตาม 9 คลิกเซลล์ปลายทาง. เพื่อเลือกเซลล์นั้น 10 คลิกแล้วลากไอคอนสี่เหลี่ยม มุมขวาล่างของเซลล์ปลายทาง. เพื่อขยายระยะเซลล์ที่พ่วงกัน ระหว่าง sheet ต้นทางและปลายทาง พอขยายเซลล์แรกปลายทางแล้ว จะพ่วงเซลล์ข้างๆ จาก sheet ต้นทางด้วย คุณลากแล้วขยายระยะเซลล์ที่พ่วงไว้ไปในทิศทางใดก็ได้ คือจะเลือกทั้ง worksheet หรือแค่บางส่วนก็ได้ เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้ มีการเข้าถึงหน้านี้ 21, 122 ครั้ง บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม

สาธิตการอ้างอิงข้อมูลข้ามแผ่นงาน (Sheet) หรือจากExcel ไฟล์ (File) อื่น - YouTube

เจ๋งสุดๆป่ะล่ะ ^^ อ้อ! เวลาดึงข้อมูล ต้องเปิดไฟล์ที่ต้องการดึงข้อมูล (ในตัวอย่างคือ,, ) ด้วยครับ ไม่งั้นผลลัพธ์จะกลายเป็น #REF! หมายเหตุ: ถ้าชื่อไฟล์ที่ถูกดึงข้อมูลไม่มีโอกาสซ้ำกับไฟล์ในโฟลเดอร์อื่น การอ้างอิง ไม่จำเป็นต้องระบุ ที่อยู่ไฟล์ ก็ได้ หรืออาจเขียนสูตรเป็น =INDIRECT(" '[ "&A5&"] "&B5&" '! "&C5) (การระบุ ที่อยู่ไฟล์ ในตัวอย่างแรก เพื่อป้องกันกรณีตั้งชื่อไฟล์ซ้ำกับข้อมูลในโฟลเดอร์อื่น และเผลอเปิดไฟล์ผิด) ทำไมการครอบด้วยฟังก์ชัน INDIRECT จึงได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ? ก็เพราะนี่คือความสามารถของฟังก์ชัน INDIRECT นั่นเอง (ตอบแบบกำปั้นทุบดินหรือเปล่าเนี่ย ^^) ความสามารถของฟังก์ชัน INDIRECT คือการ เปลี่ยน "ข้อความ" ให้กลายเป็น การอ้างอิงเซลล์ (Cell Reference) หรือใช้กับเคสแบบนี้นั่นเอง งงไหมครับ?

  • ผูก สูตร excel ข้าม sheet music
  • ผูก สูตร excel ข้าม sheet of the monument
  • บริษัท ไทย อ ค ริ ลิ ค ไฟเบอร์ จำกัด
  • การคำนวนข้าม Sheet - YouTube
  • Top chef thailand ใคร ชนะ

เมนู Data -> From File - > From Workbook 2. เลือก File แรก คือ Customer Data -> คลิก Import 3. เลือกชื่อ sheet แล้วคลิก Load จะสร้าง Sheet ใหม่ โดยดึงข้อมูลจาก ไฟล์ Customer Data เข้ามา 5. เลือก ข้อมูล จาก ไฟล์ Invoice_data เมนู Data -> From File - > From Workbook 6. เลือก File แล้ว คลิก Import 7. เลือก Sheet ที่ต้องการดึงข้อมูล แล้วคลิก Load จะสร้าง Sheet ใหม่ โดยดึงข้อมูลจากไฟล์ Invoice Data มาใส่ 9. วาง cursor ในตำแหน่ง Data -> บนเมนู Excel ->ไปที่ Query (ขวามสุด) คลิก Merge 10. เลือก ตาราง ที่ต้องการ Merge โดย ตารางแรก คือ INV_Details ตารางที่สองคือ Customer และ เลือก Column ที่ต้องการ Lookup จากตัวอย่างนี้คือ Column ชื่อ CustomerID โดยใน INV_Details คลิกเลือกที่ Column ชื่อ CustomerID และ ใน Customer คลิก เลือก Column ชื่อ CustomerID แล้วกด OK จะสร้างหน้าต่างใหม่ เป็นหน้าต่าง ของ Power Query ขึ้นมา และ มี Column ชื่อ Customer ขึ้นมา โดย Column นี้ เกิดจากจาก Lookup ข้อมูลเรียบร้อยแล้ว 12. คลิกที่หัว คอลัมน์ ตรงลูกศร ข้างขวามือของคำว่า Customer จะมีเมนูเล็ก ๆ ให้เลือก ข้อมูลจาก Customer ทีต้องการดึงมา จากรูป จะเลือก Customer Name, Address, Country ผลลัพธ์ที่ได้ จะดึงข้อมูลมาโชว์ เพิ่มขึ้นใน Column ช้างๆ 13.